++mint_jan++MRB

ยินดีต้อนรับทุกคนที่แวะเข้ามาบล็อกของมิ้นเจนนะค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

คำถาม – คำตอบ GAT / PAT

1. องค์ประกอบในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐในระบบ Admissions กลาง ในปีการศึกษา 2553 มีอะไรบ้าง
ตอบ 1. GPAX ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือเทียบเท่า 20%
2. O-NET (8 กลุ่มสาระฯ) 30%
3. ความถนัดทั่วไป (GAT) 10-50%
4. ความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) 0-40%
รวม 100%
2. ความถนัดทั่วไป (GAT : General Aptitude Test) คืออะไร
ตอบ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ แยกได้ 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และแก้โจทย์ปัญหา 50% ส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ 50%
3. ความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT) คืออะไร
ตอบ ความรู้ที่เป็นพื้นฐานที่จะเรียนต่อในวิชาชีพนั้น ๆ กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆประสบความสำเร็จ
4. ความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (Professional and Academic Aptitude Test หรือ PAT) มีกี่ประเภท
ตอบ มี 7 ประเภท คือ
PAT 1 ได้แก่ ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ พีชคณิต เรขาคณิต Calculus สถิติ ฯลฯ
(2) ความถนัดในการเรียนคณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ เช่น การคิดแบบนักคณิตศาสตร์ การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
การอ่านเรื่องทางคณิตศาสตร์แล้วเข้าใจแก้ปัญหาตามกระบวนการคณิตศาสตร์ เป็นต้น
PAT 2 ได้แก่ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ที่จะเรียนในคณะวิทยาศาสตร์ และคณะอื่นที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ความรู้ในเรื่องเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ earth science, ICT เป็นต้น
(2) ความถนัดในการเรียนวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยประสบผลสำเร็จเช่นการคิดแบบ นักวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
PAT 3 ได้แก่ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เป็นต้น
(2) ความถนัดในการเรียนวิศวกรรมในมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จ เช่น การคิดแบบวิศวกร การแก้ปัญหาทางวิศวกรรม เป็นต้น
PAT 4 ได้แก่ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปกรรม ฯลฯ
(2) ความถนัดในการเรียนในคณะสถาปัตย์ในมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จ เช่น มองเห็นภาพ 3 มิติในใจ การออกแบบ ฯลฯ
PAT 5 ได้แก่ ความถนัดทางครู ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ฯลฯ
(2) ความถนัดในการเรียนในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์สำเร็จ หรือแววในการจะเป็นครู เช่น ความสามารถในการแสวงหาความรู้ ทักษะสื่อสารรู้เรื่อง ฯลฯ
PAT 6 ได้แก่ ความถนัดทางศิลปะ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้ในทฤษฎีทัศนศิลป์ นาฏศิลป์ ดนตรี และความรู้อื่นที่เป็นพื้นฐานที่จะเรียนในคณะศิลปกรรม หรือที่เกี่ยวข้องประสบความสำเร็จ
(2) ความถนัดในการเรียนศิลปะ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
PAT 7 ได้แก่ ความถนัดในการเรียนภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้เรื่องไวยากรณ์ หลักภาษา วรรณกรรม วรรณคดี ฯลฯ
(2) ความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน สรุป ย่อความ ขยายความ สังเคราะห์ วิเคราะห์ ฯลฯ
มี 6 ภาษา คือ ก) ภาษาฝรั่งเศส ข) ภาษาเยอรมัน ค) ภาษาญี่ปุ่น ง) ภาษาจีน จ) ภาษาบาลี ฉ) ภาษาอาหรับ
5. ใครคือผู้ออกข้อสอบ
ตอบ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในคณะที่เกี่ยวข้องของมหาวิทยาลัย
6. สอบกี่ครั้ง ๆ ละ กี่ชั่วโมง กี่คะแนน
ตอบ - GAT สอบ 3 ครั้งต่อปี คะแนนเต็ม 300 คะแนน สอบ 3 ชั่วโมง
- PAT สอบ 3 ครั้งต่อปี คะแนนเต็ม 300 คะแนน สอบ 3 ชั่วโมง
7. สอบเมื่อไร
ตอบ สอบเดือนมีนาคม กรกฎาคม และตุลาคม พ.ศ.2552 (ตามที่ประชุม ทปอ. ระบุ)
8. ครั้งแรกจะสอบเมื่อไร
ตอบ สอบเดือนมีนาคม พ.ศ.2552
9. มีตัวอย่างข้อสอบหรือไม่
ตอบ มี อยู่บนเว็บไซต์ สทศ.
10. คะแนน GAT และ PAT เก็บไว้ได้กี่ปี
ตอบ 2 ปี เลือกคะแนนที่ดีที่สุด
11. ใครจัดสอบ GAT และ PAT
ตอบ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
12. สมัครอย่างไร
ตอบ สมัคร Online ผ่านเว็บไซต์ สทศ. http://www.niets.or.th/
13. สอบ GAT และ PAT ที่ไหน
ตอบ ที่สนามสอบทั่วประเทศ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้สมัครว่าอยู่จังหวัดใด
15. จะประกาศผลสอบเมื่อใด
ตอบ ภายหลังจากการสอบ 2 เดือน
16. สอบ GAT และ PAT ได้กี่ครั้ง
ตอบ มีการจัดสอบปีละ 3 ครั้ง แต่คะแนนเก็บไว้ได้ 2 ปี เท่านั้น
17. เสียค่าสมัครสอบเท่าใด
ตอบ ค่าสมัครวิชาละ 200 บาท
18. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าสอบ
ตอบ จะต้องเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในชั้น ม.5 – ม.6 หรือเทียบเท่า และ/หรือเป็น นักเรียนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า แล้วเท่านั้น
19. ในการสอบ PAT กำหนดมั้ยคะว่า จะสอบได้กี่ PAT ต่อคน
ตอบ แล้วแต่สาขาที่นักเรียนเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยว่า ต้องการ PAT อะไรบ้าง
20. ถ้านักเรียน ม.6 ปีนี้ ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ในปี 2552 จะกลับมาเข้ามหาวิทยาลัย โดยกลับมาสอบ GAT / PAT ได้หรือไม่
ตอบ ได้ ระบบ Admissions ปี 2553 เป็นต้นไป ทุกคนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยต้องมีคะแนน O-NET/GAT/PAT
21. ถ้านักเรียน ม.6 ปีนี้ ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ในปี 2552 จะกลับมาเข้ามหาวิทยาลัย โดยกลับมาสอบ GAT / PAT ได้หรือไม่
ตอบ ได้ ระบบ Admissions ปี 2553 เป็นต้นไป ทุกคนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยต้องมีคะแนน O-NET/GAT/PAT

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ความเชื่อ VS ความจริงของข้อห้าม ระหว่างมีรอบเดือน

หลายคนคงจะเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับการมีประจำเดือนต่างๆ นานา อาทิเช่น เวลามีประจำเดือนห้ามรับประทานน้ำแข็งหรือของเย็น หรือห้ามออกกำลังกายเวลาที่ประจำเดือน ซึ่งความเชื่อต่างๆ เหล่านี้อาจจะมีบางความเชื่อที่ถูกและบางความเชื่อที่ผิด วันนี้เราจะมาไขปริศนานี้กันค่ะ

1. ห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงที่มีประจำเดือน เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่อดีต เมื่อเวลาที่มีประจำเดือนนั้นฮอร์โมนในร่างกายจะมีการแปรปรวน ภูมิคุ้มกันลดลง การอาบน้ำเย็นจะทำให้ร่างกายต้องปรับอุณหภูมิตาม อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่มีประจำเดือนนั้นสามารถอาบน้ำเย็นได้ระดับอุณหภูมิปกติได้

2. ห้ามรับประทานน้ำแข็งหรือของเย็น บางคนประจำเดือนมาที่ไรเป็นต้องหลีกเลี่ยงการกินน้ำแข็งหรือของเย็นทุกที นั่นเป็นเพราะความเชื่อที่มีมาแต่เดิม แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถที่จะรับประทานน้ำแข็งหรือของเย็นได้ตามปกติ ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป (แต่ชาวชีวจิตไม่กินของเย็นอยู่แล้วนี่)

3. ห้ามออกกำลังกายเวลามีประจำเดือน เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะความจริงแล้วการออกกำลังกายหากออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา สารนี้จะทำให้เราเกิดความสุข ช่วยผ่อนคลายความเครียด และช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นวิธีป้องกันอาการผิดปกติ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการมีประจำเดือนได้

4. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ขณะที่มีประจำเดือน สำหรับความเชื่อในเรื่องนี้คงจะไม่ใช่ข้อห้าม แต่ก็ควรจะระมัดระวังในเรื่องความสะอาดให้มากกว่าปกติ เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นควรที่จะรักษาความสะอาดเป็นพิเศษทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

5. ห้ามลงเล่นน้ำ ความเชื่อนี้หลายคนคงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ที่เป็นเช่นนี้คงเป็นเพราะเรื่องความสะอาด เพราะในน้ำนั้นอาจจะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ อาจทำให้เชื้อโรคเข้าไปในช่องคลอด ทำให้เกิดการอักเสบได้ ดังนั้นถ้าใครที่อยากจะลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำก็คงจะต้องเลือกสระว่ายน้ำที่สะอาด เลือกช่วงเวลาที่ไม่มีคนใช้บริการมากนัก และก็ควรที่จะใช้ผ้าอนามัยแบบสอดก่อนที่จะลงว่ายน้ำ

ทีนี้ก็หายข้องใจกันเสียทีว่า ความเชื่อไหนที่ทำได้และความเชื่อไหนที่ทำไม่ได้

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

รัก ชอบ หลง กับความแตกต่าง!!!


1. “ชอบ”คำนี้ควรเอาไว้หน้าเครื่องหมายของความรักเพราะจะทำให้ความรักปลอดความขัดแย้ง มักจะมีความสุข และสมหวังเพราะ


1.1 ชอบ คือ รสนิยมตรงกัน นิสัยไปด้วยกันได้ เข้าใจกัน คุยกันถูกคอ เรียกว่าชอบพอกัน เช่น การคบเพื่อนเราก็ใช้ความรู้สึกนี้ เราจึงชอบเพื่อนรักเพื่อน มีความสุขพอใจ เมื่อได้อยู่กับเพื่อน แม้จะคบกันมาตั้งแต่วัยเรียน จนถึงทำงาน จนถึงแก่กว่า เพื่อนก็ไม่เคยหมดความหมาย เพราะมาจากรากฐาน ชอบ


1.2 ถ้าคำว่า “ชอบ” นำมาใช้กับคนที่รักของเรา ก็จะเพิ่มดีกรีดีกว่าเพื่อนขึ้นไปอีก เหตุนี้ควรพิสูจน์นิสัยใจคอ จนสามารถชอบเขาได้แล้วค่อยกลายเป็นความรักจึงจะถูกต้องอย่างที่ว่า“จะรักใครควรจะชอบเขามาก่อน แล้วความรักจะยั่งยืน


1.3 แต่… ส่วนใหญ่ยังไม่ทันชอบเลย ไม่รู้เสียด้วยว่าลูกใครครอบครัวเขาเป็นอย่างไร รู้แต่ชื่อเล่น ชื่อจริง ส่วนนามสกุลเอาไว้บอกทีหลัง เราก็รักไว้ก่อน ชีวิตครอบครัวจึงไม่ประสบผลสำเร็จ ล้มเหลว วันหนึ่ง ๆ แต่งงานเป็นร้อยคู่ แต่ก็หย่ากันวันล่ะ 200 คู่ ขาดทุน 100% ขาดทุน 100% เพราะเรียงลำดับผิด


1.4 เพราะถ้าเอาความ รัก ขึ้นหน้าไว้อันดับหนึ่งก่อน ชอบมักจะมองข้ามความบกพร่อง ความไม่ดีทุกอย่างของคนที่เรารักไปอย่างที่ผู้ใหญ่บอกว่า “ความรักทำ ให้คนตาบอด” พ่อแม่ห้ามก็ไม่ฟัง


1.5 แต่…ถ้า เอาชอบไว้ก่อนยังไม่รัก ถ้าคนรักเกิดพลิกล๊อค กลายเป็นไม่ดี เพราะไม่มีอะไรจะซ่อนเร้นมิดชิดและปกปิดได้นาน เท่ากับหัวใจคน เรารู้ก่อนที่จะรัก เราก็ตัดใจได้ไม่ยาก ชอบมาก่อน จึงเกิดผลดีอย่างน้อย 2 ประการ (1). ตัดใจได้ง่าย (2). ได้คนดี


2. คำว่า “รัก” มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าที่คุณคิด คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ความหมายคำว่ารักอย่างแท้จริง เพราะไม่คิดถึงทั้งๆ ที่ตัวเองก็กำลัง ประพฤติอยู่


2.1 รัก มีความหมายถึงการอยากให้ ให้คนที่ตนรักมีความสุข แล้วตัวเองก็ต้องมีความสุขด้วย ทั้งที่ความสุขนั้นอาจจะไม่ใช่หมายถึงความสมหวังเสมอไป “ในความรักไม่มีความกลัว เพราะความกลัวถูกจัดเข้ากับการลงโทษ”mแต่การเสียเขาไปต้องมีเหตุผลที่สมควรจาก 2 ฝ่ายด้วย ไม่ใช่เราคิดไปเองว่าเขาคงจะได้ดี แล้วก็ทิ้งเขาไป (เห็นได้จากในภาพยนตร์บ่อย ๆ) ซึ่งทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสทั้ง 2 ฝ่าย กลายเป็นจบลงด้วยความเศร้าแทน


2.2 รัก “ถ้าเราจะรักใครซักคน เราต้องคิดอยู่เสมอว่า เราจะให้อะไรกับเขา ไม่ใช่จะได้อะไรจากเขา” ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง


2.3 ในความรักไม่มีความกลัว เพราะถ้ามัวแต่กลัวจะเหมือนกับการโดนลงโทษ แล้วอาจจะ โดน ม.ค.ป.ด.


3. คำว่า “หลง” หลงกับรักมักจะแยกกันยากมาก เพราะอาการคล้าย ๆ กัน ทีแรกก็ปลูกต้นรัก แต่พอต้นรักเติบใหญ่ ทำไมออกดอกเป็นความหลง ความหลงจะสำแดงแตกต่างจากความรักสังเกตได้ 3 ประการ


3.1 เห็นแก่ตัว กอบโกยความสุขจากคนรักให้มากที่สุด เช่นขอพบ ขออยู่ใกล้ ให้คนรักปรนนิบัติเอาใจ เรียกร้องความสนใจตลอดเวลา เอาแต่ความสุขความพอใจตนเองเป็นใหญ่คนรักจะทุกข์ยากอย่างไรไม่สน ตัวเองจะยอมทุ่มเททุกอย่าง เช่น- ทรัพย์สินเงินทองปรนเปรอ - ถ้าไม่ได้ก็ใช่เล่ห์กล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา พวกหมอดูคนเจ้าเข้าทรง หมอผีร่ำรวยก็เพราะคนพวกนี้ ดูผิวเผิน เหมือนความรักสุดใจแต่ไม่ใช่ เพราะความรักเป็นความสุภาพ เสียสละ อ่อนโยน มีเหตุผล


3.2 ความหลงจะสังเกตได้ จะไม่มีลดน้อยหรือแม้แต่ตัว แต่จะร้อนแรงขึ้นเป็นลำดับ เหมือนถูกผีกระทำ จะไม่มีเหตุผล เกรี้วกราด รุนแรง เอาแต่ใจ เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่


3.3 การหึงหวง อย่างรุนแรง ไร้เหตุผล แม้ตัวเองจะได้ตายก็ยอม เช่นฆ่าตัวตาย หรือ ฆ่าตัวตายทั้งคู่ ตามหนังสือพิมพ์ที่ออกข่าวบ่อย ๆ เช่นรักไม่สมหวัง หลายคนเห็นใจที่เขาบูชารัก แต่นั่นคือการเข้าใจผิด มันไม่ใช่ความรัก เพราะความรัก คือความอ่อนโยน มีเหตุผล ไม่กระทำผิด แต่ความหลงกระทำให้เรา “คิดสั้น” “หลงผิด” ถูกครอบงำด้วยอำนาจที่แฝงแปลงร่างมาคล้ายกับความรักแท้

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

WEDGES รองเท้าส้นตัน รับหน้าร้อน



หน้าร้อน กับ รองเท้าส้นตัน เป็นของคู่กันเสมอ แต่แตกต่างออกไปจากเดิมก็ตรงที่คำว่า "ธรรมดา" ดูจะไม่ถูกบรรจุไว้ในพจนานุกรมซีซั่นนี้ ฉะนั้นไม่ว่าจะ Moschino ที่ส่ง Wedge แบบไม่เต็มส้น หรือ Michael Kors กับรองเท้าส้นตันคว้าด้านหลัง
หรือ Fendi ที่พรางส้นตันลวงตา ให้ดูคล้ายส้นแหลม ต่างก็เสนอแบบที่แปลกตา เป็นทางเลือกให้สาวๆ ได้ช้อปกระจายอย่างสนุกสนาน

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

รสจูบช่วยรักกระชับแน่นขึ้น


ศึกษาว่ารสจูบทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง พบว่ามันได้ปล่อยสารเคมีซึ่งเป็นฮอร์โมนช่วยระบายความเครียดของคนทั้งสองเพศ และช่วยผูกพันกันและกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

คณบดีคณะประสาทวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยลาฟาแยทต์ ดร.เวนดี้ ฮิลล์ ที่สหรัฐฯ รายงานผลการศึกษา ต่อที่ประชุมสมาคมวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าแห่งอเมริกาว่า คู่นักศึกษาหญิงชายที่ใช้ในการทดลอง เวลาจูบกัน มีการเปลี่ยนแปลงระดับของสารเคมีอย่างสำคัญในน้ำลาย เช่น สารออกซีโทซินซึ่งช่วยกระชับความรักใคร่ และคอร์ติโซล ซึ่งมีส่วนเกี่ยวกับความเครียด ทั้งคู่ต่างมีระดับของคอร์ติโซลลดต่ำลงด้วยกันหลังการจุมพิต ซึ่งส่อว่าระดับความเครียดลดน้อยถอยลง แต่ในผู้ชายกลับมีออกซีโทซินระดับสูงขึ้น แสดงว่ารู้สึกติดใจในรสสวาทยิ่งขึ้น ขณะที่ฝ่ายหญิงกลับมีระดับต่ำลง "นับว่าน่าประหลาด"

เขายังรายงานว่า การจูบกันมีอยู่ทั่วไปในสังคมมนุษย์มากว่าร้อยละ 90 การจูบก่อให้เกิดสิ่งขึ้น 3 สิ่ง คือก่อราคะ สร้างความรักใคร่ และความผูกพัน โดยแรงราคะเพื่อให้บุคคลเลือกคู่ ครอง ความรักจะช่วยให้มุ่งเป็นคนคนไป และความผูกพันจะช่วยให้ทั้งคู่ทนอยู่ร่วมกันไปจนกว่าจะมีลูกมีเต้าขึ้น

ดร.เวนดี้ยังกล่าวว่า "เมื่อเราจูบกัน มันจะไปปลุกส่วนของสมองขึ้นได้อย่างมหึมาและยิ่งถูกคน หากเป็นด้วยความรักด้วยแล้ว ก็จะยิ่งคงฤทธิ์อยู่ได้นาน"

ท่ากระโดดเริ่ด ๆ ไว้เป็นไอเดียถ่ายรูปตอนไปเที่ยว...ทะเล
















10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ

คุณเคยบ้างมั้ยที่พยายามออกเสียงคำไหนแต่ไม่เคยออกเสียงได้ถูกต้องซักที? ศัพท์ภาษาอังกฤษหลายคำเป็นที่ยอมรับว่าออกเสียงได้ยากมาก ตัวอย่างคำศัพท์ต่อไปนี้เป็นที่ขึ้นชื่อว่าออกเสียงยากที่สุด
clothes
อักษร e ไม่ออกเสียง
February
คุณต้องออกเสียงอักษรrทั้งสองตัว: เฟ็บ-รู-อา-หรี่ ไม่ใช่ เฟ็บ-ยู-อา-หรี่
athlete
คำนี้มีแค่สองพยางค์เท่านั้น: แอ๊ธ-หลีท ไม่ใช่ แอ๊ธ-อะ-หลีท
probably
คำนี้ต้องออกเสียงสามพยางค์: พร้อบ-อะ-บลี่ ไม่ใช่ พร้า-หลี่ หรือ พร้อบ-บลี่
colleague
อย่าออกเสียงue
espresso
คำนี้ไม่มีเสียงx: เอ้ส-เพร้ส-โส่ ไม่ใช่ เอ๊กซ-เพร้ส-โส่
Wednesday
อักษรdไม่ออกเสียง
escape
คำนี้ไม่มีเสียงอักษรx : เอ่ส-เค้พ ไม่ใช่ เอ๊กซ-เข่พ
library
คำนี้ต้องออกเสียงอักษร rทั้งสองครั้ง: ไล้-แบร่-หรี่ไม่ใช่ ไล้-แบ-หรี่
picture
นี่เป็นคำที่ออกเสียงกันผิดบ่อยที่สุด ที่ถูกต้องควรอ่านว่าพิก-เจ่อร์ ไม่ใช่ พิด-เจ่อร์

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Poisson


Dans la classification classique les poissons sont des animaux vertébrés aquatiques à sang froid, pourvus de nageoires et dont le corps est le plus souvent couvert d'écailles. On les trouve abondamment aussi bien en eau douce que dans les mers : on trouve des espèces depuis les sources de montagnes (omble de fontaine, goujon) jusqu'au plus profond des océans (grandgousier, Anoplogaster cornuta). Le milieu marin étant moins accessible aux humains, de nombreuses espèces restent encore à découvrir.
Ils sont d'une importance capitale aux humains en tant que nourriture partout dans le monde, qu'ils soient pêchés dans la nature ou élevés en pisciculture. Ils sont aussi exploités à des fins récréatives, avec la pêche et l'aquariophilie, et sont parfois exposés dans de grands aquariums publics. Ils jouent un rôle significatif dans de nombreuses cultures, que ce soit en tant que déités et symboles religieux, ou sujets de livres et de films.

นกแก้ว


นกแก้ว เป็นนกปากงุ้มเป็นขอในวงศ์ Psittacidae ตัวสีเขียว ปากแดง อยู่รวมกันเป็นฝูง กินเมล็ดพืชและผลไม้ ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น นกแก้วโม่ง (Psittacula eupatria) แก้วหัวแพร (P. roseata) นกมาคอว์ อาหารที่ชอบกินคือผลไม้ โดยนกแก้วมีหลายชนิดและมีสีสดใส ส่วนมากเราจะเห็นนกแก้วมีสีแดง สีน้ำเงิน สีฟ้า

อังกฤษเรื่องควรและไม่ควรในการออกเดท

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับราตรีที่แสนโรแมนติกนี้! เพื่อช่วยให้คุณ win the heart ของคนพิเศษที่คุณจับตามองอยู่ เราได้จัดทำบัญชีสิ่งที่ควรและไม่ควรทำในการออกเดทนำมาจากภาษาอังกฤษให้คุณลองอ่านดู !

สิ่งที่ควรทำ 5 ประการ

1. Dress to impressอยากสร้างความประทับใจครั้งแรกก็จงทิ้งยีนส์ลีวายส์โทรมๆ ตัวเก่งไว้ที่บ้านเถอะ หันมา dress to impress หรือเลือกแต่งกายภูมิฐานแทนด้วยเสื้อผ้าตัวใหม่ล่าสุดของคุณดีกว่า
2. Keep the conversation flowingเลือกหัวข้อที่ทั้งคุณและคู่เดทสนใจและคุยกันตามนั้น นี่เป็นการช่วยให้คุณ keep the conversation flowing แล้วคุณทั้งคู่จะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดกับความเงียบที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่คุณทั้งสองต่างก็หยุดนึกหาเรื่องมาพูดต่อไม่ออก
3. Read the signalsคู่เดทของคุณกำลังส่งซิกแนลบอกใบ้ว่าคุณกำลังก้าวเร็วไปหรือเปล่า? หรือว่าเธอพยายามบอกให้คุณรู้ว่ารุกต่อได้แล้ว? การ Read the signals หรือใส่ใจกับภาษาทางกายของคู่สนทนาจะทำให้คุณตัดสินได้ว่าควรทำอย่างไรในก้าวต่อไป
4. Whisper sweet nothingsสำหรับค่ำคืนโรแมนติกกับคนพิเศษคุณอย่าลืมใช้เวลาในการ whispering sweet nothings ข้างหูของเขา หรือกล่าวชมเขาด้วยคำหวานๆ และกระซิบบอกรักเบาๆ
5. Keep it short and sweetคำว่า short and sweet หมายถึงใช้เวลาด้วยกันสั้นๆ แต่น่าพึงพอใจ ซึ่งนั่นจะทำให้คู่เดทของคุณกระหายอยากได้อีก ยินดีด้วย คุณผูกใจคู่เดทคนนี้ได้แล้ว !

สิ่งต้องห้าม 5 ประการ

1. Make your date a green-eyed monsterการพูดให้คู่เดทคุณฟังว่าคุณเพิ่งไปทานอาหารกลางวันกับแฟนเก่ามาจะทำให้คู่เดทของคุณกลายเป็น green-eyed monster ซึ่งก็เปล่าหรอก นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นปีศาจอะไรจริงๆ หรอก เพียงแต่มันหมายความว่าคู่เดทของคุณจะรู้สึกอิจฉาริษยาต่างหาก
2. Create a recipe for disasterการที่คุณสืบรู้ล่วงหน้าว่าคู่เดทของคุณชอบอาหารอิตาเลียนนั้นจะทำให้คุณวางแผนประทับใจเขาหรือเธอได้ง่ายขึ้น แต่การจองร้านอาหารแบบเดาสุ่มเลือกร้านที่ตัวคุณเองก็ยังไม่เคยไปจะเป็น recipe for disaster หรือปัญหาติดขัดจะเกิดขึ้นในการเดทครั้งนั้นแน่นอน !
3. Talk about old flames"Fiona was SO gorgeous!" หรือ "Matt earned SO much money!" หรือ "Jamie really ruined my life!" ต่างก็เป็นประโยคที่จะทำให้คู่เดทของคุณเผ่นแน็บไปโดยเร็วเหมือนกันทั้งนั้น! Old flames หรือถ่านไฟเก่าซึ่งหมายถึงแฟนเก่าของคุณเป็นหัวข้อที่คุณควรหลีกเลี่ยงและอย่าเอ่ยถึงเป็นอันขาด
4. Act like a momma's boyคู่เดทสาวของคุณจะนึกว่าคุณเป็น momma's boy หรือผู้ชายลูกแหง่ติดแม่ ถ้าคุณเล่าให้เธอฟังว่าแม่ของคุณชอบส่งคุณเข้านอนด้วยโกโก้ร้อนแก้วนึงพร้อมเล่านิทานกล่อมนอนให้ฟังอีกต่างหาก
5. Get cold feetสิ่งที่แย่สุดกู่ที่คุณจะทำกับคู่เดทของคุณได้คือการที่คุณเกิดประหม่าเขินอายอย่างหนักจน get cold feet หรือไม่ยอมไปพบตามนัดปล่อยให้เขาหรือเธอรอเก้อนั่นเอง !

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 006

evolution evolution
talon กรงเล็บสัตว์

extraction การแยกเอาออก การย้ายเคลื่อนที่
gag บทคำพูดตลก


installed ใส่ ติดตั้ง เพิ่ม
airbag อุปกรณ์ป้องกันภัยในรถยนต์ที่มีลักษณะคล้ายถุงลูกโป่ง


unfortunate โชคไม่ดี
STOMP ชื่อคณะเต้นรำคณะหนึ่งที่มีชื่อเสียง


Consumer Reports แมกกาซีนที่รายงานผลการทดสอบคุณภาพสินค้าชนิดต่างๆ
lapse of reason การตัดสินใจผิดๆ


den ห้องนั่งเล่น ปกติมีโทรทัศน์ด้วย
home school เรียนที่บ้านแทนที่จะไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนใหญ่พ่อหรือแม่เป็นคนสอน


foolishly งี่เง่า ไร้สามัญสำนึก
spareribs ซี่โครง

down แตก หัก เสีย
abnormal psychology จิตวิทยาไม่ปกติ คิดพิศดาร บ้า

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

คุณตกหลุมรักกับภาษาอังกฤษหรือเปล่า?

ภาษาฝรั่งเศสอาจได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภาษาแห่งความรัก แต่ภาษาอังกฤษเองก็ไม่ใช่ย่อย เรียนศัพท์ในประโยคเหล่านี้แล้วนำไปใช้เมื่อพูดถึงแฟนคุณ
1. Love makes the world go round ถึงบางคนจะเชื่อว่าเงินเท่านั้นที่ทำให้โลกเราก้าวไปข้างหน้า แต่สำหรับคนโรแมนติคขนานแท้แล้วล่ะก็ ความรักต่างหากที่สำคัญที่สุดต่อการมีชีวิต
2. Your better half หมายถึงแฟนของคุณนั่นเอง หรือคุณจะเรียกแฟนว่า 'my other half' ก็ได้ แต่ your better half มีความหมายดีกว่า your other half!
3. The light of my life คำว่าlight of your lifeหมายถึงคนที่จุดประกายยิ้มแจ่มใสและทำให้คุณมีความสุข ! คุณสามารถบอกรักต่อแฟนคุณได้ว่า "Darling, you light up my life"
4. She drives me crazy!เปล่า นี่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหล่อนทำให้คุณจะบ้าตายหรอก ! ถ้าใครที่ drives you crazy แสดงว่าเขาหรือเธอทำให้คุณใจเต้นตึกตักเป็นจังหวะรัก อย่างเช่นประโยค "You're crazy about Amy, why don’t you ask her out?"
5. Falling in love การใช้คำว่า to fall in love นั้นมีความหมายลึกซึ้งมากไปกว่า to love ซึ่งถึงแม้ว่า To love ใครซักคนนั้นก็มีความหมายดีอยู่แล้วก็ตาม แต่ to fall in love มีความหมายมากไปกว่านั้นอีก คือแทบจะกล่าวได้ว่าจะมีชีวิตปราศจากเขาหรือเธอคนนั้นไม่ได้เลย ! จำไว้อย่างหนึ่งว่าอย่ากล่าวประโยค "I'm falling in love with you" กับแฟนของคุณเร็วนัก รอจนกระทั่งคุณแน่ใจเต็มร้อยก่อนดีกว่า
6. Perfect match คุณหา perfect match ของคุณเจอรึยัง? คำว่า perfect matchของคุณนี้มีความหมายตรงตัวเลย ซึ่งก็หมายถึงคนที่เหมาะสมกับคุณได้ในทุกด้าน อาจเรียกได้อย่างหนึ่งว่าเป็น 'soul mate' ของคุณ
7. Seeing, Dating, Going steady เมื่อคุณเพิ่งจะเริ่มออกเดทกับใครซักคนและคุณไม่อยากให้ความสัมพันธ์นั้นพัฒนาไปอย่างจริงจังเร็วนัก คุณอาจพูดได้ว่า 'I'm seeing someone' หลังจากนั้นซักพักคุณจะเริ่มเลื่อนระดับเป็น dating จนกระทั่งคุณ go steady กับคนนี้ซึ่งหมายความว่าคุณกับใครคนนั้นถือว่าเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ
8. You are too good to be true! ถ้าคุณบอกใครซักคุณว่าอย่างนั้นหมายความว่าคุณคิดว่าเขาหรือเธอดีมหัศจรรย์จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นจริง คุณอาจกล่าวได้อย่างหนึ่งว่า you are like a dream come true ก็ได้
9. Significant Other นี่เป็นศัพท์สมัยใหม่ที่ใช้เรียกแฟนของคุณเมื่อกล่าวถึงเขาหรือเธอเมื่อคุณพูดกับคนอื่น อย่างเช่นในประโยค Can I bring my Significant Other to the party? แต่ไม่ใช่ Honey, you are my Significant Other
10. Love at first sight หมายถึงการที่คนสองคนตกหลุมรักกันตั้งแต่รักพบ และถ้าคุณเชื่อว่ารักแรกพบมีจริงล่ะก็ แสดงว่าคุณเป็นคนโรแมนติคขนานแท้เลยล่ะ !

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

++L*O*V*E++

ความรัก ไม่ต้องการ แค่วันเดียว
ความรัก ไม่ต้องเกี่ยว กับวันไหน
ความรัก ไม่ต้องมี เวลาใด
ความรัก ไม่ต้องใช้ ให้ใครชี้
ความรัก ไม่ต้องมี ข้อวิจารณ์
ความรัก ไม่ต้องการ การกดขี่
ความรัก ไม่ต้องให้ ใครตราตี
ความรัก ไม่ต้องมี เส้นพรมแดน
ความรัก ไม่ต้องรอ ข้อพิสูจน์
ความรัก ไม่ต้องพูด ตามแบบแผน
ความรัก ไม่ต้องการ การตอบแทน
ความรัก ไม่ต้องแค่ หัวใจคน
ความรัก ไม่ต้องการ การเป็นต่อ
ความรัก ไม่ต้องรอ ขอเหตุผล
ความรัก ไม่ต้องย้ำ ความมีจน
ความรัก ไม่ต้องทน ที่จะรัก

วาเลนไทน์ในยุคก่อน


วาเลนไทน์เดย์ยุคก่อน (ขำขันไม่เบา) ถ้าพูดถึงวันวาเลนไทน์แล้ว ทุกคนคงจะนึกถึงใครสักคน ที่เป็นคนพิเศษในใจคุณ มีการส่งดอก กุหลาบ บัตรอวยพร ช็อกโกแลต สัญลักษณ์แห่งความหอมหวาน ไปให้คนที่ตนรัก แต่ถ้าย้อนยุคไป สมัยก่อน ชาวโรมันโบราณ ฉลองวันวาเลนไทน์ มานานหลายพันปี ด้วยการจัดงานควบคู่ไปกับงาน ฉลองเก็บเกี่ยวพืช โดยให้หญิงส าวสวมหน้ากาก รูปหมาป่า คอยเวลา ถูกกลุ่มชายหนุ่มรูปหล่อ นุ่งผ้าเตี่ยว เอาแส้โบย ชาวโรมันจัดงานรื่นเริงเช่นนี้ทุกเดือน ก.พ.ของทุกปี จนกระทั่งถึง ค.ศ.45 พระสันตะปาปาพระองค์หนึ่ง มีบัญชาให้เลิก แต่ทุกวันนี้ ประเพณีเฉลิมฉลองเทศกาล วาเลนไทน์ ของชาวมะกะโรนีแล ะกรีซยังมีอยู่ ชายหนุ่มยังเฆี่ยนตีหญิงสาวอยู่ แต่ใช้แส้พลาสติกแทน ซึ่งสร้าง ความสนุกสนาน ร่าเริงมากกว่า
อย่างไรก็ตาม คนโรมันโบราณ ในวันแห่งความรัก ถ้าจะให้คู่รักมีอารมณ์โรแมนติก จะต้องเปิบน้อง ฮิบโปโปเตมัส และดวงตาตัวไฮอีน่า ไม่ได้อธิบายคุณสมบัติ ว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น นอกจากนี้ยังเผยว่า "ผลส้ม" เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ ชาวยุโรปรุ่นก่อนเล่าว่า ส้มเป็นผลไม้ บำรุงสมรรถนะทางเพศ สร้างอารมณ์โรแมนติก และความพึงพอใจทางเพศ หากใครต้องการให้ คู่รักหลงใหล ต้องใช้เข็มแทงผลส้ม แล้วนำไปใส่ใต้รักแร้ นอนหลับหนึ่งคืนรุ่งเช้า ใครกินผลส้ม เข้าไป จะตก หลุมรักเจ้าของในทันที (ใครกล้ากินจริง ก็คงเรียกว่าหลงรัก หน้ามืดตามัวเลยนะเนี่ย) อย่างไรก็ตามเรื่องส้มนี้ จีนโบราณถือเป็นยากระตุ้นเซ็กซ์ จักรพรรดิจีน ชวนนางสนมเอกช่วยกัน หั่นส้มชิ้นบางๆ พร้อมกับโปรยดอกส้ม ทั่วเตียงบรรทม สำหรับผลไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ อื่นๆ ก็มีผลอาร์ทิโชคมีใบเป็นหนาม กล้วย และพืชจำพวกไทรมีผลคล้ายแพร์ ซึ่งเชื่อว่าช่วยบำรุง สมรรถภาพทางเพศ สมัยก่อนมีข้อห้าม การใช้ช็อกโกแลต ฉลองวันวาเลนไทน์ เพราะมันกระตุ้นต่อม น้ำลายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการพัฒนา นำดอกกุหลาบ และช็อกโกแลตมาใช้ฉลอง จนถึงปัจจุบัน เหล่านี้คือแง่มุมหนึ่งของวันวาเลนไทน์ในอดีต
Love หรือ รัก คำนี้ดูเหมือนจะเป็นคำ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แทบจะมากที่สุดเลย ก็ว่าได้ ไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แม้ว่าอะไรๆจะเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เจ้าความรักนี่ ดูเหมือนจะ ไม่รู้จักคำว่าล้าสมัย เอาซะเลย ความรักทำให้คนเรา เป็นคนมากขึ้น มีอารมณ์ มีความรู้สึก มีความคิด และอะไรต่างๆอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความรัก แต่ถ้าคนเรา ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ เมื่ออยู่ในความรัก อาจจะเกิดผลเสีย มากกว่าผลดีก็ได้ เพราะฉะนั้น "จงรักให้เป็น" อย่าให้ความรักมีอำนาจเหนือตัวเรา

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Chocolat


Le chocolat (du nahuatl xocolatl ou chocolatl, signifiant « eau amère ») est un aliment issu de la fève de cacao. C'est un ingrédient courant populaire dans de nombreuses confiseries, glaces, biscuits, tartes, gâteaux et autres desserts. Il est obtenu par la fermentation, la torréfaction, et le séchage des fèves amères provenant du cacaoyer (Theobroma cacao) originaire de l'Amérique.

ช็อกโกแลต

ช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกเลต (Chocolate) คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก หรือว่าพาย ช็อกโกแลตถือได้ว่าเป็นของหวานอย่างหนึ่งที่ถูกใจคนทั่วโลก
ช็อกโกแลตทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ซึ่งได้มาจากต้นโกโก้เขตร้อน (tropical cacao tree) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก ต้นโกโก้นั้นถูกค้นพบโดยชาวอินเดียนแดงและชาวอัซเตก (Aztecs) แต่ในปัจจุบันได้แพร่กระจายและปลูกไปทั่วเขตร้อน เมล็ดของต้นโกโก้นั้นมีรสฝาดที่เข้มข้นมาก ผลผลิตของเมล็ดโกโก้รู้จักกันในนาม "ช็อกโกแลต" หรือบางส่วนของโลกในนาม "โกโก้"
ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดโกโก้รู้จักภายใต้หลายชื่อแตกต่างกันไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ใน
อเมริกา อุตสาหกรรมช็อกโกแลตได้จำกัดความไว้ว่า
โกโก้ (cocoa) คือเมล็ดของต้นโกโก้
เนยโกโก้ (cocoa butter) คือไขมันของเมล็ดโกโก้
ช็อกโกแลต (chocolate) คือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของต้นโกโก้และเนยโกโก้
ช็อกโกแลตคือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของฝักถั่วโกโก้และเนยโกโก้ ซึ่งได้ผสมน้ำตาลและส่วนผสมอื่น ๆ และถูกทำให้อยู่ในรูปของแท่งและรูปอื่น ๆ
เมล็ดของต้นโกโก้นอกจากทำเป็นช็อกโกแลตได้แล้วยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ด้วย เช่น ช็อกโกแลตร้อน เครื่องดื่มช็อกโกแลตนั้นได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวอัซเตก (Aztecs) หลังจากนั้นโดยชนเผ่าอินเดียนแดงและชาวยุโรป
บ่อยครั้งที่ช็อกโกแลตมักจะถูกทำให้อยู่ในรูปของ
สัตว์ต่าง ๆ คน หรือวัตถุในจินตนาการ เพื่อร่วมในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น รูปกระต่าย รูปทรงไข่ในเทศกาลอีสเตอร์ รูปของเหรียญหรือซานตาคลอสในเทศกาลคริสต์มาส และรูปทรงหัวใจในเทศกาลวาเลนไทน์

วิธีเลือก ของขวัญวาเลนไทน์ ให้เหมาะสม

การเลือกของขวัญวาเลนไทน์ให้ใครต่อใครในโอกาสต่างๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งเลือกให้คนพิเศษในเทศกาลแห่งความรักด้วยแล้วก็ยิ่งต้องพิถีพิถันในเรื่องของขวัญวาเลนไทน์ เพื่อให้คนรับปลื้ม พอใจ และคนให้ก็มีความสุขด้วย

แล้วคุณรู้มั้ยว่า ของขวัญวาเลนไทน์ที่คุณเลือกและมอบให้เขาหรือเธอนั้น บอกให้ผู้รับรู้ได้ด้วยว่าคุณเป็นคนแบบไหน ของแต่ละอย่างเป็นสัญลักษณ์ของอะไร บ่งบอกความเป็นคุณอย่างไรของขวัญวาเลนไทน์

ช่อดอกไม้ สัญลักษณ์ของความรักและความปรารถนาดีการ ให้ช่อดอกไม้แสดงให้เห็นว่า คุณเป็นคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูง โรแมนติกไม่น้อย เป็นคนเจ้าชู้ไม่เบาเลย มีความละเอียดอ่อน นอกจากนี้ยังดื้อเงียบและหยิ่งอีกด้วย

ตุ๊กตา สัญลักษณ์แห่งความปรารถนาดีและมิตรภาพตุ๊กตา เป็นของขวัญที่คนส่วนใหญ่นิยมมอบให้กัน เพราะเป็นกลางที่สุด เป็นการแสดงให้รู้ว่าคุณชอบให้ของขวัญหรือของฝากกับคนอื่นอยู่เสมอ เป็นคนที่มีความหวานอยู่ในจิตใจ มองโลกในแง่ดี อารมณ์แจ่มใสเสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนรั้น ดื้อเงียบ เอาแต่ใจตัวเอง

ของรูปหัวใจ สัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันของ ใช้ที่ทำเป็นรูปหัวใจที่เห็นกันบ่อยๆ เช่นเครื่องประดับที่เหมาะกับสาวๆ ส่วนหมอนหรือกล่องดนตรีจะเหมาะกับหนุ่มๆ การให้ของขวัญแบบนี้แสดงว่าคุณเป็นคนโรแมนติกมาก ให้ความสำคัญกับความรัก ความผูกพัน ความห่วงใยในคนอื่น เป็นคนช่างคิด ช่างฝัน

น้ำหอม สัญลักษณ์แห่งเสน่ห์และความปรารถนาคุณ เป็นคนมีรสนิยมดี ชอบของสวยๆ งามๆ ค่อนข้างสำอางมีเสน่ห์ ชอบสร้างความประทับใจให้แก่ผู้อื่น เข้ากับคนได้ง่าย แต่มักห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองเกินไป

ช็อกโกแลตหรือคุกกี้ สัญลักษณ์แห่งความรักและมิตรภาพคุณ เป็นคนอารมณ์ดี มองโลกแง่ดี ไม่มีพิษภัยกับใคร แม้ดูเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ ชอบความสนุกสนาน แต่คุณก็มีความรับผิดชอบสูง มีน้ำใจ แม้เจ้าชู้ไปบ้างแต่ก็ไม่หลายใจนะ

เครื่องประดับ สัญลักษณ์แห่งความหรูและความสำเร็จคุณเป็นคนช่างสังเกต ช่างเลือก ช่างคิด ให้ความสนใจในการวางตัวและสร้างภาพลักษณ์ เป็นคนมีรสนิยมดี รักสวยรักงาม ชอบโดดเด่น

ผลิตภัณฑ์อะโรมา สัญลักษณ์ของความหวังและแรงบันดาลใจคุณ เป็นคนโรแมนติก ชอบท่องเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ ช่างคิด ช่างฝัน ภายนอกเหมือนคนอ่อนโยน แต่จริงๆ กลับเป็นคนดื้อเอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน

ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิว สัญลักษณ์ของความรัก ความปรารถนาดี เสน่ห์และความสุขคุณเป็นคนเอาใจใส่และเข้าใจคนอื่นโดยเฉพาะคนรักของคุณ เป็นคนโรแมนติก สร้างความประทับใจเก่ง ช่างเลือก ช่างคิด เก่งในด้านการตัดสินใจ

.. คำบอกรักภาษาต่าง ๆ ..

.. คำบอกรักภาษาต่าง ๆ ..
ภาษาไทย เรียกว่า ฉัน รัก คุณ
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า ไอ เลิฟ ยู (I love you)
ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai shiteru)
เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t''''aime)
ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi)
ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ไอ้ ลู่ (Auo ai Lu)
ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ปรัชญาความรัก


A man overtime falls in love with woman he is attracted to, and a woman overtime become more attracted to the man she loves.

ผู้ชายมักจะตกหลุมรักคนที่เค้าหลงเสน่ห์ และผู้หญิงจะหลงเสน่ห์คนที่เธอตกหลุมรัก


Friendship is love minus sex and plus reason LOVE is friendship but love is friendship plus sex and minus reason.

มิตรภาพคือ ความรักลบด้วยเซ็กซ์ และบวกเอาเหตุผลเพิ่มเข้าไป ส่วนรักคือ มิตรภาพบวกด้วยเซ็กซ์ และลบเอาเหตุผลออกไป


To love is nothing. To be loved is something. To love and be loved is everything!!!!

การได้รักเป็นเรื่องขี้ผง การถูกรักเป็นเรื่องของอะไรบางอย่าง ส่วนการได้รักและการถูกรักเป็นทุกอย่าง (ว้าว)
You may only be one person to the world but you may also be the world to one person

คุณอาจจะเป็นแค่ "คนๆ หนึ่ง" ในโลกใบนี้ แต่คุณอาจจะเป็น "โลกทั้งใบ" ของคนคนหนึ่งก็ได้


You know when you love someone when you want them to be happy even if their happiness means that you're not of it.

คุณรู้ว่าคุณรักเค้าก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้เค้ามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายถึง การที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน


Love looks not with eyes, but with the mind.

ความรักนั้นเห็นไม่ได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ


Love is like standing in the wet cement. The longer you stay, the harder it is to leave. And you can never go without leaving your shoes behind.

ความรักก็เหมือนปูนเปียกๆ ยิ่งคุณอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งติดหนึบ จากไปไม่ได้เท่านั้น และคุณจะไม่มีวันจากมาได้เลย โดยที่ไม่ได้ทิ้งรองเท้าไว้ข้างหลัง


Don't marry a person you can live with, marry somebody you can't live without.

จงอย่าแต่งงานกับคนที่คุณ "อยู่ด้วยได้" จงแต่งงานกับคนที่คุณ "ขาดไม่ได้"


If you love someone tell them don't wait or also you will lose the chance.

ถ้าคุณรักใคร บอกเค้าซะ อย่ารีรออยู่เลย ไม่งั้นคุณจะเสียโอกาสนะ..


It only takes a second to say " I love you" but it will take a lifetime to show you how much.

ใช้เวลาแค่เพียงชั่ววินาทีในการบอกว่า" ฉันรักเธอ" แต่ใช้เวลาตลอดชีวิตในการแสดงให้เห็นว่า รักมากเพียงไร?


The essential sadness is to go through life without loving. But it would be almost equally sad to leave this world without ever telling those you loved that you love them.

ความเศร้าที่สำคัญคือการใช้ชีวิตโดยปราศจากความรัก แต่มันคงจะเศร้าพอๆกันที่จะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้บอกคนที่คุณรักว่า "คุณรักพวกเค้า"


A man falls in love through his eyes, a woman through her ears.

ผู้ชายตกหลุมรักทางตา แต่ผู้หญิงน่ะ ตกหลุมรักทางหู


To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain. To try is to risk failure, but risk must be taken, because the greatest hazard in life is to risk nothing.

การที่ได้รักคือการเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับความรักเป็นการตอบแทน การตั้งความหวังคือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด การพยายามคือการเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือการไม่เสี่ยงอะไรเลย


When loving someone.. never regret what you do. only regret what you didn't do.

เวลารักใคร..อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณได้กระทำ จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้กระทำ…..

วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

♥ความรักในแบบต่างๆ♥♥


ความรัก มีหลากแบบ ความรัก เกิดได้หลายแบบ และความรัก ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่ยังไง ๆ เรื่องความรัก ก็ยังมีเรื่องให้คนต้องการรัก หรือคนมีรัก ได้รับการเซอร์ไพรส์อยู่เสมอ ซึ่งวันนี้เราก็มีเรื่องเกี่ยวกับ มหัศจรรย์ของความรักมาให้อ่านกันด้วยค่ะ . . . เอ่อ ว่าแต่รักของคุณเป็นเช่นนี้อ่ะเปล่าเอ่ย?


คนที่ใช่ ไม่ได้มีเพียงคนเดียว

ถ้าคุณคิดว่าคุณทำคู่แท้หลุดมือไปแล้วล่ะก็ อย่าเสียใจไปเลย โลกนี้เต็มไปด้วย ผู้ชายที่มีแนวโน้มจะเป็นคนที่ใช่เยอะแยะ “เหตุผลที่ผู้หญิงมากมายทุกข์ใจ จากการเดท ก็เพราะพวกเธอเชื่อว่า โลกนี้มีผู้ชาย แค่คนเดียวที่ถูกสร้างมาเพื่อเธอ”


รักแรกพบมีจริง

มันเป็นไปได้ ที่เราจะรักใครซักคน ที่เพิ่งเจอแค่แป๊ปเดียว “ทางชีวภาพสัตว์ต้องหาคู่ให้ได้ ก่อนฤดูผสมพันธุ์สิ้นสุด ก็เลยถูกตาต้องใจกันอย่างเร็ว” ในเมื่อสมองเราส่งสารแบบนั้น เราก็เลยสามารถตอบโต้ ตัวกระตุ้นความชอบ ภาษากายและความเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว


อยู่ห่างๆ กันบ้างก็ดี

ในขณะที่คุณกำลังคลั่งรักหัวปักหัวปำ สิ่งที่คุณอยากทำก็คือ เอาอกเอาใจเขา และอยากเกาะติดเขาแจได้ทั้งวันทั้งคืน “การอยู่ห่างกันทำให้สารเคมีแห่งความรัก อย่างโดพามีนและนอเรฟฟินเนฟฟิลในสมองเพิ่มผลผลิต”


ความรักไม่ใช่เรื่องของอารมณ์

ความรักกระตุ้นสมองส่วนที่สัมพันธ์กับการจดจ่อไปที่แรงจูงใจ และแรงผลักดัน ซึ่งตรงข้ามกับสมองส่วนความรู้สึก เช่นความสุขหรือความเศร้า ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า ทำไมเราถึงว้าวุ่นใจเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ทำให้ชีพจรเราเต้นรัว


ความรักเป็นสิ่งเสพติด

เมื่อเราดูรูปคนรักเก่า ส่วนของสมองที่เกี่ยวข้อง กับการเสพติดแอคทีฟเป็นพิเศษเลย โดพามีนถูกหลั่งออกมา แล้วเราก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม จิตใจหวั่นไหวล่องลอยอย่างแรง เหมือนใช้ยาเสพติดเลย นั่นคือสาเหตุที่เราโหยหาหวานใจเราไง


ผู้ชายรักง่ายกว่าผู้หญิง

เรามีแนวโน้มจะคิดว่าผู้หญิงรีบร้อนที่จะมีรัก แต่ความจริงผู้ชายเป็นอย่างนั้นมากกว่า “สมองผู้ชายติดตั้งสัญญาณเกี่ยวกับการมองเห็นมากกว่า” ดังนั้น เมื่อหนุ่มเห็นสาวที่ทำให้เครื่องเขาติด ก็จะมีแรงไปกระตุ้นสมองส่วนพิเศษที่มีเฉพาะในเพศชาย